THE M CAFE & THE MASSIVE TOY GALLERY สวรรค์สำหรับคนรักฟิกเกอร์เกือบ 300 ตัว!


THE M CAFE & THE MASSIVE TOY GALLERY สวรรค์สำหรับคนรักฟิกเกอร์เกือบ 300 ตัว!


ร้านกาแฟสำหรับคนรักฟิกเกอร์ โมเดลของสะสมต้องห้ามพลาด! ที่นี่เลยมีทั้งหมดเกือบ 300 ตัว!
42319734_2691160177576694_828
42353555_2691156137577098_834
42358796_2691156327577079_491
42369606_2691160017576710_919
42371024_2691160200910025_265
ได้ใกล้ชิดกับจักรวาล Marvel, DC มีให้เดินชมแกลเลอรีทั้งชั้น 1 และชั้น 2 ชมฟรี ถ่ายรูปก็ฟรี วันนี้คนเยอะเป็นพิเศษ ที่นั่งแทบไม่มี ส่วนใหญ่จะเห็นลูกค้าวัยรุ่น วัยกลางคน
42319642_2691157944243584_915
42319686_2691156070910438_440
42328705_2691156227577089_912
42388125_2691159907576721_128
เราไม่เน้นอาหาร เน้นมาเสพโมเดลราคาหลักหมื่นหลักแสนไม่ใช่ตัวจิ๋วๆ นะงานดีจริง ของดีเขตทุ่งครุ
42352587_2691156724243706_247
42354078_2691155940910451_577
42423066_2691155784243800_703

เครื่องดื่มมีทั้งชา กาแฟ สมูทตี้ ฮันนี่โทสต์ เค้ก (แต่ไม่มีอาหารนะ) ราคาปานกลาง มีที่จอดรถพร้อมปลั๊กไฟไว้บริการ
42317169_2691190200907025_546
42369911_2691190410907004_849
42494611_2691190467573665_279

ข้อมูลเพิ่มเติม 

พิกัด : พุทธบูชา 36 แถวมหาวิทยาลัยบางมด กรุงเทพมหานคร
เปิด 8.00 - 19.00 น.
การเดินทาง : สามารถมาโดยรถประจำทางสาย 75 ลงหน้าปากซอย 36 แล้วเดินเข้ามาอีกไม่ไกล

รีวิวทดลองใช้ “iPhone XS Max” ในระยะเวลา 1 วัน กับสุดยอดมือถือของ Apple ที่แพงที่สุดและดีที่สุด


รีวิวทดลองใช้ “iPhone XS Max” ในระยะเวลา 1 วัน กับสุดยอดมือถือของ Apple ที่แพงที่สุดและดีที่สุด


มาแล้วครับกับการรีวิวมือถือใหม่จาก Sanook! Hitech ครั้งนี้เราได้นำมือถือที่หลายคนรอคอยและพูดถึงกันมากมายอย่าง iPhone XS และ iPhone XS Maxมารีวิวแบบทันด่วน กับการทดลองใช้ทุกฟีเจอร์ในเวลา 1 วัน เอาล่ะมันจะเจออะไรที่น่าตื่นเต้นมาดูกันดีกว่า

>> จัดหนัก! เปิดราคาเครื่องหิ้วในไทย iPhone XS และ iPhone XS Max เริ่มต้น 59,500 สูงสุด 78,500 บาท

รายละเอียดสเปกของคร่าวๆ ของ iPhone Xs Max

  • หน้าจอแสดงผลขนาด 6.5 นิ้วความละเอียด 1242 x 2688 พิกเซล ใช้หน้าจอแบบ OLED รองรับ 3D Touch
  • ขนาด : ยาว 157.5 x กว้าง 77.4 x หนา 7.9 มิลลิเมตร
  • หนัก : 208 กรัม
  • ชิปเซ็ตประมวลผล : Apple A12 Bionic
  • RAM : 4GB
  • ความจุ(ROM) : 64 / 256 / 512GB
  • กล้องหลัง : เลนส์คู่ 12 ล้านพิกเซล F1.8 + 12 ล้านพิกเซล Tele Photo F2.4 พร้อมกับ Smart HDR, Quad LED Flash, Auto Focus
  • กล้องหน้า : 7 ล้านพิกเซล
  • ตัวเชื่อมต่อเสียง Lightning Port
  • ซิมแบบนาโน + e SIM
  • ระบบความปลอดภัย Face ID ใช้สแกนหน้าเพียงอย่างเดียว
  • เชื่อมต่อ 4G LTE LTE ระดับ Gigabit, WiFi 802.11 AC, Bluetooth V5.0
  • แบตเตอรี่ขนาด ไม่ระบุความจุ รองรับ Quick Charge และ Wireless Charge
  • สีตัวเครื่อง ทอง, เงิน, Space Gray

เปิดกล่อง iPhone XS Max ว่ามีอะไรบ้าง


  • ตัวเครื่อง iPhone XS Max
  • เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
  • คู่มือ / สติ๊กเกอร์ Apple
  • ปลั๊กชาร์จไฟ
  • Lightning Port
  • Earpod แบบช่องเสียบ Lightning Port

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่องและการออกแบบดีไซน์ของ iPhone XS Max

ด้านหน้ามีขนาดหน้าจอที่ใหญ่โตถึง 6.5 นิ้วความละเอียด 1242 x 2688 พิกเซล ให้ความคมชัดสูงเมื่อสัมผัสเพราะเป็นแบบ OLED เช่นเคย แต่ความพิเศษคือสีสันของจอตรงและรองรับ HDR10 และ Dolby Vision ด้วยเช่นเคย

ส่วนบน มาพร้อมกับลำโพงตัวเครื่อง, Depth Sensor, กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล และรอยบากที่บอกสถานะและการแจ้งเตือนต่างๆ ไว้อย่างครบครัน

ส่วนล่าง เป็นที่อยู่ของเมนูต่างๆ และจะกลับหน้าหลักให้ผลักขึ้น หรือจะสไลด์ซ้ายขวาเพื่อเปลี่ยน Apps ที่เปิดก่อนหน้านี้

ด้านข้างยังคงใช้สแตนเลสเหมือนเดิม โดยมีจุดเด่นคือ สีสันสวยงามและ Apple เคยบอกว่ามันทนขึ้น แต่เอาเข้าจริงก็อดห่วงที่มันจะเป็นรอยได้ง่าย ฝั่งซ้ายมีปุ่มเปิดปิดเสียง พร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง

ฝั่งขวามีปุ่ม Power ที่กดค้างสามารถใช้เปิด Siri ได้ นอกจากนี้ช่องใส่ซิมเป็นแบบ Nano SIM ที่สำหรับบางประเทศเช่นจีนและฮ่องกงที่จะได้รุ่น Dual SIM สามารถใส่ซิมทั้งด้านบนหรือล่างก็ได้เช่นเดียวกัน


p1120551
ด้านบนของเครื่องจะมีเส้นเสาอากาศฝั่งเดียวและแสดงสีสแตนเลสที่สวยงาม

ด้านล่างของเครื่องมีไมโครโฟน, Lightning Port, ลำโพงตัวเครื่องมาให้ครบครัน

ด้านหลังเป็นกระจกที่มีผิวสัมผัสที่ดีและเนียนกับมืออย่างมาก มาพร้อมกับ กล้องหลังด้านบนขนาด 12 + 12 ล้านพิกเซล พร้อมกับ LED Flash สีดวงและรองรับ Wireless Charge ด้วย ในภาพรวมแล้ว หน้าจอใหญ่อาจจะทำให้ทัชจุดสูงไม่ถนัดบ้างแต่ตัวเครื่องแคบกว่า iPhone 8 Plus ทำให้ยังจับได้ง่ายอยู่

เปิดเครื่องใช้งาน iPhone XS Max พร้อมการทดสอบฟังก์ชันต่างๆ

iPhone XS Max ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 12 ที่มีจุดเด่นมากมาย แต่เน้นเรื่องของการใช้งานเป็นหลักเพราะความลื่นไหลและต่อเนื่องพบได้ค่อนข้างมาก
รวมถึงฟีเจอร์จาก iOS12 ที่มีมากมายและล้วนแต่ออกแบบเพื่อความสะดวกและห่วงใยคุณไม่ว่าจะเป็น
  • Screen Time จับเวลาการใช้งานมือถือว่าคุณใช้งานมือถือมากเกินไปหรือไม่
  • Do Not Disturb In Car จับการเคลื่อนไหวของเราและสามารถหยุดไม่ให้คุณใช้มือถือได้
  • ระบบการบอกแบตเตอรี่ที่เรียกได้ว่าละเอียดยิบ
  • Memoji สร้างได้ง่ายและสามารถใช้งานได้ง่ายแต่สำหรับการถ่ายภาพแปลงหน้าคุณอาจจะดูซับซ้อนเพราะต้องทำใน Message เท่านั้น และสามารถแสดงผล Animoji ได้ด้วย

  • Measure สามารถวัดพื้นที่และใช้ AR ทำงานร่วมกับกล้องได้ คาดว่านักพัฒนาจะทำโปรแกรมออกมามากขึ้น
  • ปิดท้ายด้วย Gallery สามารถปรับได้มากมายโดยเฉพาะ Portrait Mode ที่เพิ่มการละลายหลังได้ด้วย นอกเหนือจากแสงได้
  • ความสามารถที่เหลือของ iOS12 อ่านต่อได้ที่นี่
Advertisement
 bench


ในเรื่องประสิทธิภาพของ iPhone XS Max ได้เลือกใช้ Apple A12 Bionic มีจุดเด่นในเรื่องของการทำงานหลายด้านเพราะเป็นครั้งแรกของ Apple ที่เลือกใช้ CPU สถาปัตยกรรมแบบ 7 นาโนเมตร คะแนนทดสอบทำได้สูง การเล่นเกมราบรื่นไม่ติดขัด แต่เสียดายเรื่องของการระบายความร้อนที่ยังไม่ดีเท่าไหร่ ร้อนเมื่อใช้งานหนักไปหน่อย
ส่วนแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่าเดิม เซอร์ไพรส์คือ ทำใช้งานได้นานพอสมควร โดยรูปแบบทั้งนำทาง, เล่นเกม ถ่ายภาพและกล้อง แต่เสียดายที่ระบบชาร์จไฟยังใช้แบบเดียวกับ iPhone X
ประสิทธิภาพกล้องของ iPhone XS Max เป็นอย่างไร

กล้องหลังของ iPhone XS ให้มาขนาด 12 ล้านพิกเซล แบ่งออกเป็นเลนส์ระยะปกติที่มีรูรับแสง F1.8 และ Tele Photo รูรับแสง F2.4 พร้อมกับระบบกันภาพสั่นไหวและ LED Flash 4 ดวง แม้ว่าสเปคกล้องจะเป็นแบบเดิม แต่มีการปรับปรุง Software ใหม่ให้สีภาพให้สดใสขึ้นและรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 60 FPS และรองรับการถ่าย Slowmotion ได้
ส่วนกล้องหน้าของ iPhone Xs ยังคงใช้กล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล เท่าเดิม และมีการปรับแสงได้ตามที่เราต้องการได้เช่นเคย
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก iPhone XS Max
img_0072ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง iPhone XS Max
img_0081ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง iPhone XS Max
img_0094ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง iPhone XS Max
img_0130ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง iPhone XS Max
img_0171

5 มือถือที่ตกรุ่นแต่ยังคงน่าใช้อยู่...ถ้าไม่คิดมาก ประจำเดือนกันยายน 61


5 มือถือที่ตกรุ่นแต่ยังคงน่าใช้อยู่...ถ้าไม่คิดมาก ประจำเดือนกันยายน 61



ปัจจุบันมือถือรุ่นใหม่เปิดตัวอย่างมากมายและหลายยี่ห้อทำให้หลายคนสนใจไม่น้อยแต่ด้วยราคาของมือถือรุ่นใหม่ ทำให้หลายคนหันไปหามือถือรุ่นเก่าที่เปิดตัวนานแล้วแต่ยังน่าใช้ วันนี้ Sanook! Hitech ได้รวมมือถือที่น่าใช้ ถ้าไม่แคร์รุ่นใหม่
iPhone 7 / 7 Plus >> Hands On
สำหรับ iPhone 7 หรือ iPhone 7 Plus เป็นมือถือที่หลายคนคุ้นเคย แต่สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นกับ iPhone ที่งบประมาณไม่ได้มากมายอะไร ถือว่าตอบโจทย์ และกล้องหลังให้ความละเอียดไม่ได้หนีจากรุ่นใหม่มากนัก และได้ CPU A10 ที่แรงใช้ได้อยู่ครับ
และยังได้อัปเกรดเป็น iOS รุ่นใหม่ต่อไปครับ ได้เรื่อยๆ แต่ถ้าต้องการ Wireless Charge ควรเลือกเป็น iPhone 8 / 8 Plus
Samsung Galaxy Note 8 >> รีวิว
แม้ว่า Samsung Galaxy Note 8 จะเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วก็ตาม แต่ความสามารถของรุ่นนี้ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นใหม่มากนัก แต่อาจจะมีประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ของเครื่องน้อยไปหน่อย และสเปคเครื่องดีนะ
Huawei Mate 10 Pro >> รีวิว
สำหรับมือถือรุ่นนี้เป็นครั้งแรกของโลกที่ CPU รองรับ NPU ทำให้การประมวลผลได้ดี และสามารถใช้กับเทคโนโลยี AI  ทั้งการถ่ายภาพ, การรองรับการใช้งานที่ลื่นไหลและสามารถเสียบกับหน้าจอเปลี่ยนเป็นหน้าจอได้
ส่วนกล้องนั้นมีการปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์เล่นไปเรื่อย ๆ ทำให้ Huawei Mate 10 Pro ยังน่าสนใจและราคาถูกดึงดูดใจ
Nokia 8 >> รีวิว
เรือธงของโนเกียที่เปิดตัวไปปีที่แล้ว จุดเด่นของหน้าจอที่ความละเอียดสูงและมีเลนส์ Zeiss ครั้งแรกของค่าย แต่มาพร้อมกับ Android ที่ยังได้ไปต่อ นี่เป็นมือถือที่แม้ว่าจะเก่า แต่ก็อัปเดตได้นานแน่นอน
Vivo V9 >> รีวิว
ปิดท้ายด้วย Vivo V9 ที่มีจุดเด่นคือกล้องหลังคู่พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 8.1 รุ่นใหม่และมีกล้องหน้าถ่ายภาพได้ ภาพรวมของเครื่องที่ได้ถ้าไม่ได้คิดอะไรมาก นี่ก็เป็นมือถือตกรุ่นที่ราคาไม่แพงและน่าใช้งานอยู่ไม่น้อยเลยครับ

รีวิว TS Online Mobile อดีตเกมสามก๊กสุดฮิตกลับมาอีกครั้งในมือถือ


รีวิว TS Online Mobile อดีตเกมสามก๊กสุดฮิตกลับมาอีกครั้งในมือถือ



วันนี้เราจะมาพูดถึงเกมออนไลน์ที่เกมเมอร์ยุค 90 ต้องรู้จักกันดีอย่างแน่นอน โดยการพูดเกริ่้นมาขนาดนี้มันต้องแน่นอนว่า เรากำลังจะพูดถึงเกมออนไลน์เก่าๆ นั่นเอง ถ้าจะพูดถึงเกมพวกเกมยุค 90 ก็จะเป็นพวก RO, MU, N-age หรือ RYL พวกนี้เป็นต้น แต่ก็ยังมีเกมอื่นๆ ที่ดังอีกเพียบนะและวันนี้เราพูดถึงเกมที่อยู่ในยุคเดียวกับเกมเหล่านั้นก็คือเกม TS Online เป็นเกมรุ่นเดอะสมัยก่อนที่ได้รับความนิยมจากเกมเมอร์ชาวไทยพอสมควร แต่ในสมัยนั้นตัวเกมจะเป็นระบบเติมเงินเล่นเกมหรือแอร์ไทม์นั่นเอง ซึ่งใครจะไปคิดว่าเกมรุ่นเดอะอย่างนั้นกลับมาแล้วในรูปแบบเกมมือถือที่ใช้ชื่อว่า TS Mobile ซึ่งผมไม่พลาดที่จะไปรีวิวแน่นอน
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเกมให้ผู้อ่านที่เกิดไม่ทันและอาจจะหลงลืมไปบ้างแล้วตัวเกม TS Mobile เป็นเกมแนว MMORPG รูปแบบ Turn Base ที่ตัวเกมมีธีมอยู่ว่าผู้เล่นเป็นคนที่อยู่ในยุคสมัยใหม่และได้หลุดเข้าไปในโลกสมัย สามก๊ก ดังนั้นผู้เล่นก็ต้องเริ่มหาทางเอาชีวิตในยุคสมัยสงครามนี้โดยการรวบรวมเหล่าขุนพลชื่อดังจากวรรณกรรม สามก๊ก และนี้คือเสน่ห์ของเกม TS Online เลยก็ว่าได้แต่ตัวเกมไม่มีแค่ตัวละครจากสามก๊กเท่านั้น ยังมีมาสคอตอย่าง ปาโต้เยา เป็นจุดขายของเกมอีกด้วย และตอนนี้ก็มีดาวน์โหลดแล้วแต่ยังเป็นภาษาจีนอยู่นะแต่ก็มีเซิร์ฟเวอร์ Global รองรับผู้เล่นอยู่ แล้วเกมนี้ก็ได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆเกมเมอร์ชาวไทยเยอะพอสมควร
ซึ่งตัวเกม TS Mobile ได้นำทั้ง ภาพ เนื้อเรื่อง เพลง เอฟเฟค และ รายละเอียดต่างๆ ของในเวอร์ชั่นต้นฉบับมาทุกอย่างดังนั้นเกมเมอร์คนไหนที่เกิดทันบอกเลยว่าหายคิดถึงแน่นอน แต่สำหรับเด็กรุ่นๆ ใหม่อาจจะงงว่าเกมไรว้าภาพก็ไม่สวยดูเก่าๆ จะสนุกตรงไหนต้องบอกเลยว่ามันคือเกมคลาสสิกที่เกมเมอร์รุ่นเก่าชื่นชอบดังนั้นลองเล่นดูก่อนแล้วอาจจะเปลี่ยนความคิดก็ได้นะ
ระบบ Gameplay ตัวเกมจะเป็นรูปแบบ Turn Base ไม่มีอะไรซับซ้อนมากมาย มีระบบแพ้ธาตุเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเท่านั้น โดยปุ่มหลักๆ ก็จะมีการโจมตีปกติ ป้องกัน หลบหนีและส่งสัญญาณ SOS ขอความช่วยเหลือ รวมไปถึงการจับขุนพลเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นตัวเกมก็ยังมีระบบที่เน้นไปในรูปแบบ Multiplayer ที่จะมี Content ให้เล่นกับผู้เล่นอื่นในรูปแบบออนไลน์ เช่นการลงดันเจี้ยนไปเจอบอสโหด หรือ Event สุดยิ่งใหญ่ที่ชาว TS Online ต้องคุ้นเคยกับประโยคนี้ว่า "หาตี้ผ่านสะพาน" แน่นอน
อีกหนึ่งระบบเด่นที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ ก็คือระบบ "จับขุนพล" เพราะตัวเกมจะมีขุนพลต่างๆ มากมายที่มีอยู่ในเรื่อง สามก๊กรวมถึงมอนสเตอร์แบบต่างๆ อีกด้วยไม่ว่าจะเป็น กวนอู จูฝู เจี่ยงจี้ จงเปา หรือตัวละครอื่นๆ อีกมากมายที่จะคอยให้ผู้เล่นได้ค้นหากันซึ่งต้องบอกก่อนว่าแต่ละตัวละครดีๆ ส่วนใหญ่จะมีที่แอบหรือจุดเกิดที่แอบซ้อนกันอยู่ในแผนที่ส่วนต่างๆ ดังนั้นผู้เล่นต้องใช้เวลาหากันพอสมควรเลย แล้วต้องสู้และจับมาเป็นขุนพลคู่กายให้ได้
ส่วนตัวละครของเราก็จะมีการเลือกธาตุกันตั้งแต่เริ่มเกมแล้ว และก็จะมีการอัพค่าสเตตัสต่างๆ ซึ่งเป็นระบบพื้นฐานของเกมในสมัยก่อนเลย รวมไปถึงการอัพสายสกิลที่แบ่งออกเป็น 2 ทาง ยกตัวอย่างเช่นของธาตุน้ำ จะแบ่งออกเป็นสายโจมตี(ฝั่งซ้าย) และสายเพิ่มพลังชีวิต(ฝั่งขวา) อะไรประมาณนี้ก็ขึ้นอยู่กับธาตุของแต่ละคนว่าสกิลของธาตุนั้นๆ ทำอะไรได้บ้าง รวมถึงขุนพลของเราก็สามารถอัพเลเวลค่าสเตตัสต่างๆ ได้เหมือนกัน
เกม TS Mobile ถือว่าเป็นเกมที่แฟนๆ เกมเมอร์รุ่นเก๋าต่างคิดถึงกันเหลือเกินและการที่มีการเปิดตัวในรูปแบบเกมมือถือแบบนี้ ทำให้สามารถเข้าถึงผู้เล่นได้ง่ายขึ้น ซึ่งเกมเมอร์ชาวไทยหลายๆ คนก็หวังว่าตัวเกมจะเปิดเป็นเซิร์ฟเวอร์ไทย หรืออย่างน้อยทำเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษก็ยังดี



รูปภาพที่เกี่ยวข้องผลการค้นหารูปภาพสำหรับ คิตตี้ภาพเคลื่อนไหวรูปภาพที่เกี่ยวข้องรูปภาพที่เกี่ยวข้องรูปภาพที่เกี่ยวข้องผลการค้นหารูปภาพสำหรับ คิตตี้ภาพเคลื่อนไหวรูปภาพที่เกี่ยวข้อง